ไวยากรณ์จีน

Home เรียนจีน ไวยากรณ์จีน

ซีรีส์คำเหมื๊อนเหมือน ตอน: 变, 变成, 变得, 改变 และ 成为 “เปลี่ยน” “กลายเป็น”??

สวัสดีค่ะแฟนเพจของสุ่ยหลิน ภาษาจีนมีคำที่มีความหมายว่า “เปลี่ยน” กับ “กลายเป็น” อยู่มากมายหลายคำเลยค่ะ ในโพสนี้เรามารู้จักคำเหล่านี้และความแตกต่างในรายละเอียดกันค่ะ ป.ล. ความรู้โพสนี้รอยต่อ HSK 4 ต่อ 5 เลยนะจ๊ะ แต่ถึงจะยากแค่ไหนสุ่ยหลินจะอธิบายให้เข้าใจง่ายเองค่ะ มาติดตามกันได้เลย

那个 ที่เป็นมากกว่า “สิ่งนั้น” “อันนั้น”

alternate use of 那个

สวัสดีค่าา พวกเราห่างหายจากโพสไวยากรณ์มานาน งั้นเรากลับมาเริ่มเรียนกันหน่อยนะคะ โพสนี้มาอุ่นเครื่องเริ่มต้นกับแบบเบาๆ แต่เนื้อหานั้นน่าสนใจมาก กับคำว่า 那个 ที่เป็นมากกว่า “สิ่งนั้น” “อันนั้น” กันค่ะ

数量补语 บทเสริมบอกจำนวน อะไรแว้???

数量补语

สวัสดีค่ะแฟนเพจของสุ่ยหลิน ก่อนที่เราจะเข้าถึงโพสนี้ สุ่ยหลินมีคำถามเกี่ยวกับ 数量补语 มาถามแฟนเพจดังนี้ค่ะ

ขอถามง่ายๆ (แต่ตอบยาก อิอิ) ว่าประโยคไหนถูก?

1.他来了两个月北京。
Tā láile liǎng gè yuè Běijīng.

2. 他来北京两个月了。
Tā lái Běijīng liǎng gè yuè le.

3. 我学了汉语一个小时。
Wǒ xuéle Hànyǔ yī gè xiǎoshí.

4. 我学了一个小时汉语。
Wǒ xuéle yī gè xiǎoshí Hànyǔ.

5. 我学汉语学了一个小时。
Wǒ xué Hànyǔ xuéle yī gè xiǎoshí.

แอบอุบอิบไว้ในใจก่อนนะคะ  เพราะเฉลยจะตามมาทีหลัง แต่การที่เราจะตอบคำถามข้างบนแบบนี้ได้ (โดยไม่มั่วและไม่เดา)  เราต้องรู้จักไวยากรณ์ที่ว่าด้วยเรื่องบทเสริมบอกจำนวนหรือ 数量补语 ค่ะ

ว่าแต่บทเสริมบอกจำนวนคืออะไร? แค่ฟังชื่อก็ท้อซะแล้ว มาติดตามกันได้ในโพสนี้ของสุ่ยหลินเลยค่ะ

คำเชื่อมฆ่าไม่ตาย ใช้บ่อยสุดๆ กับ 不但……而且/也/还…… เรียนเถอะ รับรองได้ใช้ชัวร์ๆ

不但...而且...
不但...而且...

สวัสดีค่ะแฟนเพจของสุ่ยหลิน  เรื่องของคำเชื่อมเราเรียนกันมานักต่อนักแล้วใช่ไหมคะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคำเชื่อมแบบ 不但  ที่มักมาเข้าคู่กับ 而且 ที่แปลว่า “ไม่เพียงแต่……แต่ยัง”

คำเชื่อมแบบนี้เจอในชีวิตประจำวันบ่อยมากๆ แถมออกสอบเป็นประจำ แต่นี้ในโพสนี้สุ่ยหลินขอเพิ่มวิธีการการใช้เข้าไปอีกนิดนั่นก็คือ 不但……而且/也/还…. จะแปลยังไง?ติดตามได้ในโพสนี้ของสุ่ยหลินค่ะ

有的是 แปลว่าอะไร “มีแล้วคือ” เหรอ??

有的是-ที่แตกต่าง

สวัสดีค่ะแฟนเพจของสุ่ยหลิน โพสนี้สุ่ยหลินอยากจะคุยเรื่องวลีนี้ค่ะ 有的是 ดูๆ แล้วก็ไม่เห็นมีอะไรยาก เพราะถ้าแยกคำออกมาทีละคำเรียนกันมาหมดแล้วทุกตัว งั้นอันดับแรก อยากให้พวกเรามาดูประโยคเปรียบเทียบข้างล่างนี้ แล้วมีบอกได้ไหมว่ามีอะไรที่แตกต่างกันไหมเอ่ย?

我们班的同学,有的是中国人,有的是日本人。
Wǒmen bān de tóngxué, yǒude shì Zhōngguórén, yǒude shì Rìběnrén.
และ
我有的是钱。
Wǒ yǒudeshì qián.

ทั้งสองประโยคข้างบนเป็นการใช้ 有的是 ด้วยกันทั้งคู่ แต่รู้ไหมคะว่าความหมายของ 2 ประโยคนั้นแตกต่างกัน เป็นไปได้จริงเหรอ? และมันต่างกันยังไงล่ะ??่อ่านได้ในโพสนี้ของสุ่ยหลินเลยค่ะ

ซีรีส์คำเหมื๊อนเหมือน ตอน: 关于 กับ 对于 ก็แปลว่า “เกี่ยวกับ” เหมือนๆ กันนี่นา??

关于VS对于

สวัสดีค่ะแฟนเพจของสุ่ยหลิน โพสก่อนสุ่ยหลินได้อธิบายเรื่อง 对 กับ 对于 ว่าต่างกันยังไงมีแฟนเพจถามมาว่า แล้ว 关于 กับ 对于 ล่ะ สุ่ยหลินมีคำอธิบายมั๊ยว่าต่างกันยังไง?

สุ่ยหลินจัดให้ค่ะ ติดตามได้ในโพสนี้ของสุ่ยหลินเลยค่ะ

对 คือ “ถูก” กับ “ต่อ” แล้ว 对于 คืออะไร? ใช้แทนกันได้หรือเปล่า ?

对VS对于

สวัสดีค่ะแฟนเพจของสุ่ยหลิน ตอนเริ่มต้นเรียนภาษาจีนใหม่ๆ แน่นอนว่าเราต้องเจอคำว่า 对 [duì] ที่แปลว่า “ถูก” อันนี้ไม่ยากเท่าไหร่ แต่เมื่อเราเรียนๆ ไปสักพักเราจะเจออีกความหมายของ 对 ที่แปลว่า “ต่อ” หรือ “กับ” หรือ “เกี่ยวกับ” ได้ด้วยนะ เช่น  他对我很好。เขาดีกับฉันมากกกก พอเรียนไปอีกประมาณ HSK4 เราจะเจอคำว่า 对于[duìyú]  ด้วย ที่แปลว่า “เกี่ยวกับ” ด้วย???

สรุปแล้วทั้ง 2 คำแปลว่าอะไร? ต่างกันตรงไหน? จะรู้ได้ยังไงว่าตอนไหนต้องใช้ 对หรือ 对于? ติดตามได้ในโพสนี้กับสุ่ยหลินเลยค่ะ

ซีรีส์คำเหมื๊อนเหมือน ตอน: 一直 กับ 一向 ก็ “ตลอดๆ” เหมือนกันนี่นา

一直VS一向

สวัสดีค่ะแฟนเพจของสุ่ยหลิน ถ้าใครตามดูสุ่ยหลิน  LIVE จะจำได้ว่าสุ่ยหลินชอบพูดบ่อยๆ ว่าภาษาจีนยากที่สุดที่คำเหมือน คำคล้ายๆ ที่ความหมายใกล้เคียงกัน ยากเพราะเราคนต่างชาติไม่รู้จะใช้คำไหนดีเพราะแปลเหมือนกันหมด ผลสรุปก็คือเราก็ใช้แบบของเราแต่คนจีนไม่ใช้ !! TT

เหมือนอย่างคู่คำเหมือนในวันนี้ที่สุ่ยหลินเอามาเขียนโพสค่ะ คำว่า 一直 [yīzhí] กับ 一向 [yīxiàng]  ทั้งสองคำนี้มีความหมายในภาษาไทยแทบจะไม่ต่างกัน คือมีความหมายว่า “เสมอ” หรือ  “ตลอด” แต่ในการใช้งานของทั้งสองคำ และความหมายลึกลงไปของทั้ง 2 คำนี้มีความแตกต่างกันอยู่นะคะ จะแตกต่างกันตรงไหน มาติดตามได้ในโพสนี้ของสุ่ยหลินค่ะ

再 แปลว่า “อีก” และ 还 [hái] แปลว่าอะไร?? ยังคง กับ อีก ต่างกันไหม??

再VS还

สวัสดีค่ะแฟนเพจของสุ่ยหลิน เมื่อเราเรียนภาษาจีนไปสักระยะเราจะเจอกับคำศัพท์ที่แปลคล้ายๆ กันทำให้เรางง ว่าทำไมต้องมี 2 คำนะ มี 2 คำแล้วต่างกันตรงไหน  เหมือนอย่างศัพท์ในวันนี้ค่ะ

ทั้ง 再 [zài] และ 还 [hái] สองคำนี้เป็นคำวิเศษณ์ (副词) ทั้งคู่ ความหมายก็ใกล้เคียงกันอีก คือสามารถสื่อได้ว่าจะมีการเกิดขึ้นซ้ำของกริยาหรือการกระทำในอนาคต หรือสื่อว่ากริยาหรือการกระทำนั้นดำเนินต่อเนื่องไป ได้เหมือนกัน ลองดู 2 ประโยคนี้เทียบกันค่ะ

明天我再来。
Míngtiān wǒ zài lái.

กับ

明天我还来。
Míngtiān wǒ hái lái.

ทั้ง 2 ประโยคถูกไวยากรณ์ทั้งคู่ และสื่อถึงว่า “พรุ่งนี้ฉันจะมาอีก” ด้วยกันทั้งคู่เลย แต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดปลีกย่อยนะคะ อ้าว!แตกต่างกันยังไง? แตกต่างกันตรงไหน?? มาดูกันทีละคำในโพสนี้ของสุ่ยหลินได้เลยค่ะ

BTS ยังมีส่วนต่อขยาย แล้วทำไม 起来 กับ 下去 จะมีความหมายส่วนต่อขยายไม่ได้?

ความหมายส่วนต่อขยายของ-กริยา-+-起来-และ-กริยา-+-下去.png
ความหมายส่วนต่อขยายของ-กริยา-+-起来-และ-กริยา-+-下去.png

สวัสดีค่ะแฟนเพจของสุ่ยหลิน ไม่อ่านโพสไวยากรณ์จากสุ่ยหลินตั้งนานแล้วนะคะ ได้เวลากลับมาเรียนไวยากรณ์ง่ายๆ สไตล์สุ่ยหลินกันอีกแล้ว^^ วันนี้ขอนำเสนอไวยากรณ์ส่วนต่อขยายเหมือน BTS ค่ะ อิ อิ  เรื่องราวจะเป็นยังไงนั้น ติดตามได้ในโพสนี้ของสุ่ยหลินค่ะ

เริ่มทำความเข้าใจ กริยา + 起来  กันก่อน วลีนี้ถือว่าเป็นความหมายที่เราคุ้นเคยกันดี เพราะหมายถึงการบอกทิศทางการเคลื่อนที่ของกริยาที่มีทิศทางจากล่างขึ้นบน เช่น

我高兴得起来。
Wǒ gāoxìng de tiào qǐlai.
ฉันดีใจจนกระโดดขึ้นมา

起来
Wǒ lā tā qǐlái.
ฉันดึงเขาขึ้นมา

过了一会儿他起来走了。
Guòle yīhuìr tā zhàn qilai zǒu le.
ผ่านไปสักพักเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วก็เดินไป

แต่ช้าก่อน  เมื่อเราใช้ 起来 ร่วมกับกริยาที่ไม่ได้แสดงการเคลื่อนที่ ความหมายของ กริยา + 起来 จะไม่ได้บอกทิศทางการเคลื่อนที่ของกริยาอีกต่อไปแล้วนะคะ แต่จะเป็นการบอกผลลัพธ์ของกริยาแทน

เช่น

起来了,你叫王明。
Wǒ xiǎnɡ qǐlai le, nǐ jiào Wánɡmínɡ.
ฉันนึกออกแล้ว เธอชื่อหวางหมิง (นึกออก)

คือกริยา 想 ไม่ได้เป็นกริยาที่แสดงการเคลื่อนที่แล้วนะคะ ดังนั้น 想 + 起来 จึงไม่ได้บอกว่าทิศทางการนึกหรือการคิดมีทิศทางจากล่างขึ้นบนแต่อย่างใดค่ะ แต่จะเป็นการบอกลัพธ์ของกริยาว่า “นึกออกแล้ว” โดยที่ 起来 ในที่นี้จะเป็นการบอกว่ากริยา 想 นั้นหวนกลับมาอีกครั้งหลังจากที่แต่ก่อนนั้นลืมไปแล้วนี่นเองค่ะ

ซึ่งความหมายของ 起来 ที่ไม่ได้มีความหมายตรงๆตัวแบบนี้ ภาษาจีนเรียกว่า 引申意义 [yǐnshēn yìyì] ความหมายที่ขยาย(จากความหมายพื้นฐาน) สุ่ยหลินขอเรียกชื่อเก๋ๆ ว่า ความหมายส่วนต่อขยาย นะจ๊ะ

แล้วจะบอกผลลัพธ์ของกริยาได้ยังไง มาอ่านกันต่อเลยค่ะ